วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สมุนไพรบำบัด รักษาโรคไต

โรคได มีสาเหตุ เกิดมาจาก ระบบการดุดซึมของร่างกาย ทำงานไม่เป็นปกติ จึงทำให้ อาหารที่เรา รับประทานเข้าไป ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้ จึงถูกส่งไปให้ไตขับทิ้ง ไดจึงต้องรับหน้าที่ทำงานหนักมากกว่าปกติ

มาดูกันว่าส่วนต่างๆ ของร่างกายเรา ส่วนไหนมีหน้าที่ดูดซึม สารอาหารไปใช้ได้อย่างไร

  • ลำไส้เล็ก ทำหน้าที่ในการดุดซึม กลุ่มของสารอาหาร ที่จะไปสร้างกรดอะมิโน ได้แก่สารอาหาร โปรตีน วิตามินซี วิตามินบีหนึ่ง วิตามินบีสาม วิตามินบีหก เพื่อนำไปใช้ในการสร้างเซล์ใหม่ๆ ในร่างกายของเรา เช่น เซลล์ประสาท เซลล์กล้ามเนื้อ เซลล์กระดูด เป็นต้น
  • ลำไส้ใหญ่ ทำหน้าที่ในการดูดซึม กลุ่มของสารอาหาร ที่จะนำไปสร้างเม็ดเลือด ได้แก่ พวก วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี เพื่อไปสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ให้กับร่างกาย
  • ถ้าลำไส้เล็กดูดซึมสารอาหารไม่หมด ก็จะส่งต่อให้กับไต 
ไต ซึ่งมีหน้าที่ในการกรองเลือด ว่าเม็ดเลือดไหนหมดอายุ ก็จะจัดการกรองออกไป ส่วนเม็ดเลือดที่ยังไม่หมดอายุ ก็จะส่งคืนกลับไปใช้ใหม่ หมุนเวียนภายในร่างกาย และอื่นๆ อีกมากมาย

อาหารที่ควรควบคุม สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคไต 
  • งดอาหารที่มีเกลือโซเดียมมาก
  • งดอาหารที่มีรสเค็ม ไม่ว่าจะปรุงด้วย เกลือ น้ำปลา ซีอิ้ว ผงชูรส
  • จำกัดโปรตีน โดยในแต่ละวัน ควรจะรับประทานอาหาร จำพวกเนื้อสัตว์ เพียงปริมาณวันละเท่า 1 ผ่ามือก็พอ แต่สำหรับ ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตเนฟโฟรติกมีการสูญเสีย โปรตีนในปัสสาวะ ให้ใช้วิธีการรับประทานโปรตีน คุณภาพสูงเข้าไปทดแทน คือให้เลือก รับประทานเฉพาะไข่ขาว ในระหว่างที่ตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะ ซึ่งวิธีนี้ จะใช้ได้ดีกว่าการที่ผู้ป่าย รับประทานอาหารที่มีโปรตีนมากๆ ทั้งนี้ก็ เพื่อเป็นการป้องกันการสูญเสียทางไตเอาไว้ก่อน ขอแนะนำให้ รับประทานไข่ขาววันละ 4-5 ฟองจะช่วยทดแทนโปรตีนที่สูญเสียไปกับปัสสาวะของผู้ป่ายโรคไต ในแต่ละวันได้ และหากตรวจพบว่าไม่มีโปรตีนรั่วออกมาทางปัสสาวะแล้วก็ให้งด รับประทานไข่ขาว
  • งดสารปนเปื้อนในอาหาร โดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นสังเคราะห์ สีผสมอาหาร รสชาติสังเคราะห์ สารกันบูด กันเชื้อรา ฯลฯ เนื่องจากสารดังกล่าว ล้วนแล้วต้องเป็นภาระให้ไตทำงาน ขับสารเหล่านี้ออกจากร่างกายทั้งสิ้น
ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตเรื่อรัง ควรจะลดอาหารเค็ม เนื่องจากร่างกาย ของผู้ป่วยโรคไต จะไม่สามาระขับเกลือออกจากร่างกายได้ตามปกติ เมื่อมีเกลือในร่างกายมากก็จะทำให้มันอุ้มน้ำเอาไว้มากเกินไป จนผู้ป่วยมีอาการร่างกายบวม และความดันโลหิตสูง

สมุนไพรบำรุงรักษาโรคไต
  • กระชายเหลืองธรรมดา ประมาณ 1 กิโลกรัม ใส่น้ำลงไปให้มากๆ แล้วปั่นผสมกับใบโหระพา รินเอาแต่น้ำใส ทำทีละมากๆ สามารถเก็บแช่ตู้เย็นไว้ดื่มได้ (ไม่ต้องต้มนะค่ะ)
  • หญ้าใต้ใบทั้งต้น นำไปตัมกับน้ำจนเดือด เคี่ยวอย่างน้อย 15 - 20 นาที ใช้ดื่ม เพื่อกระตุ้นสมรรถภาพของไต ได้เป็นอย่างดี
  • ต้นหญ้าหนวดแมว นำไปหั่นแล้วตากแดดให้แห้ง ไว้ชงกินแทนน้ำชา แก้กระษัย ขับปัสสาวะ ทำให้ไตมีสมรรถภาพ ดื่มเป็นประจำรับรองได้ผลเป็นอย่างดี
  • มะระขี้นก ผลใช้เป็นยาขม ทำให้เจริญอาหาร บำรุงน้ำดี ได้เป็นอย่างดี

วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สมุนไพร ต้านและรักษาโรคเบาหวาน

ก่อนอื่นเรามารู้จักกับโรคเบาหวานกันก่อนค่ะ โรคเบาหวานก็คือ สภาวะที่ร่างกายของเรา มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ นั่นเอง สาเหตุที่ร่างกาย มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ก็เนื่้องมาจาก ร่างการไม่สามารถ นำน้ำตาลไปใช้ได้ตามปกติ ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ ที่ตับออน ปล่อยฮอร์โมน ที่มีชื่อทางการแพทย์ว่า "อินซูลิน" ออกมาไม่เหมาะสม และไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ ของร่างกาย

โรคเบาหวาน เกิดได้หลายสาเหตุ เช่น เกิดจากการรับประทานอาหารของเรา และโรคเบาหวานที่เกิดจากกรรมพันธุ์ เป็นต้น

สาเหตุของการเกิดโรคเบาหวาน เนื่องจาก ตับอ่อนเสื่่อม จึงไม่สามารถผลิต หรือสร้างสารอินซูลินได้น้อยกว่าปกติ หรือไม่ได้เลย (สารอินซูลิน จะช่วยในการเปลี่ยนน้ำตาลในร่างกายของเรา ให้กลายเป็นพลังงาน) ดังนั้น เมื่อตับอ่อนผลิตสารอินซูลินให้ร่างกายไม่เพียงพอ น้ำตาลในกระแสเลือด ก็ไม่มีการนำไปใช้ จึงเป็นเหตุให้เกิดการคั่งของน้ำตาลในเลือด และอวัยวะต่างๆ นั่นเอง จนในที่สุดก็ถูกไตขับออกมาทางปัสสาวะ

สมุนไพรรักษาโรคเบาหวานลดน้ำตาลในเลือด

  • เตยหอม กับใบต้นสักทอง :: นำต้นเตยหอมทั้งใบและราก ล้างน้ำให้สะอาด โดยให้ตัดส่วนใบของสักทองและใบเตยหอม อย่างละ 50 เปอร์เซ็นต์ แล้วนำไปคั่วด้วยไฟอ่อนๆ จนเหลือง ส่วนของรากเตยหอมนำไปทุบให้แตก ไม่ต้องนำไปคั่ว จากนั้นนำทั้ง 3 อย่างไปต้มในหม้อ และนำน้ำยาที่ได้จากการต้มมาดื่มทุกวัน ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน สามารถลดน้ำตาลในเลือดได้
  • มะระขี้นก :: ให้นำเนื้อของมะระขี้นกมาหั่น (เอาเมล็ดออกให้หมด เพราะเมล็ดของมะระขี้นกอาจทำให้แพ้ เมื่อรับประทานอาจจะมีอาการปวดศรีษะ ปวดท้อง เป็นไข้) ตากแดดให้แห้ง แล้วนำมาชงกับน้ำร้อนดื่ม สำหรับคนที่ไม่ชอบรสขม สามารถเติมใบชาชนิดใดลงไปขณะที่ชงก็ได้ ใบชาจะช่วยในการกลบรสขมได้เป็นอย่างดี
  • ต้นไมยราบ กับต้นครอบจักรวาล อย่างละ 50 เปอร์เซ็นต์ หั่นตากแตดให้แห้ง แล้วนำไปคั่วไฟอ่อนๆ จนเหลืองพอประมาณ จากนั้นนำไปชงกับน้ำร้อน เป็นน้ำชา สามารถน้ำตาลในเลือดได้
  • ใบอินทนินน้ำ ให้นำใบสดของต้นอินทนินน้ำ 2-3 กำมือ ไปล้างน้ำให้สะอาด ใส่หม้อต้มให้สุก แล้วทิ้งไว้จนเย็น ค่อยนำมาดื่ม จะช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ดี

วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เมื่อเชื้อราเข้าสู่กระแสเลือด โยเกิร์ตสามารถช่วยยับยั้งการขยายพันธุ์ของเชื้อราได้


คนที่มีโรคประจำตัว คนที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ คนที่เป็นโรคเรื้อรัง ระวังโดนเชื้อราโจมตี เนื่องจากเชื้อรา (Candida Albicans) เป็นเชื้อโรคที่รอโอกาส เข้ารุกรานหรือเข้าโจมตีคนที่มีสุขภาพอ่อนแอ ทำให้เกิดโรคต่างๆ ขึ้นได้ เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดอักเสบ หรือโรคลิ้นหัวใจอักเสบ ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสให้เชื้อราผ่านผนังลำไส้เข้าไปในกระแสเลือดได้

คนที่เป็นโรคติดเชื้อเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นไซนัส จมูกอักเสบ ส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากการใช้มือที่ไม่สะอาด หยิบจับอาหารรับประทาน เพราะเชื้อราปนเปื้อนอยู่ เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรค แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดโรคเชื้อราเข้าไปในกระแสเลือดโดยตรงได้

ความน่ากลัวของเชื้อรา (Condida Albicans) เมื่อเชื้อราเพิ่มจำนวนมากขึ้น จากการที่เราใช้มือที่ไม่สะอาดปนเปื้อนเชื้อรา ซึ่งเรามองด้วยตาเปล่าไม่เห็น หยิบจับอาหารรับประทาน เชื้อรามันสามารถที่จะเผาผลาญโปรตีน และที่สำคัญ เมื่อมันขาดอาหาร มันก็จะเข้าไปในเยื่อบุลำไส้ และเข้าไปในกระแสเลือดเพื่อกินน้ำตาล

จากการศึกษาวิจัยพบว่า วิธีการต่อต้านเชื้อราตัวนี้ ก็คือการรับประทานอาหารชีวภาพ อย่างเช่น แบคทีเรียจากกรดนม เนื่องจากแบคทีเรียจากกรดนม มันจะเข้าไปช่วยในการยับยั้งการขยายพันธุ์ของเชื้อรา และเป็นการจำกัดพื้นที่ทำให้เชื้อราอยู่กับที่ ซึ่งเราสามารถหาแบคทีเรียจากกรดนม ได้จาก โยเกิร์ต นั่นเอง

วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555

ประโยชน์ของน้ำผักผลไม้


เป็นที่รู้กันดีว่าใน ผักผลไม้นั้น จะอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ โดยอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินซี ฯลฯ ดังนั้นการนำผักผลไม้มาทำเป็นเครื่องดื่ม นอจากจะช่วยให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเป่า แล้วยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย ให้สดใสแข็งแรง และห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บอีกด้วย

จากการศึกษาวิจัยของสถาบันวิจัยหลายแห่งพบว่า ในน้ำผักผลไม้จะมีสารชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า “Phytochemical / Phytonutrients” ซึ่งสารดังกล่าวจะมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้าง ภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย นอกจากนี้ Phytochemical / Phytonutrients ซึ่งเป็นพฤกษเคมียังช่วยยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางสมุนไพร ตลอดจนนักโภชนาการ และนักธรรมชาติบำบัด จึงมีความเห็นที่สอดคล้องกันว่า การดื่นน้ำผักผลไม้สด ที่คั้นเอง เป็นประจำ จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้มี สุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องออกกำลังกายควบคู่กับ การรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่